วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 11 Monday Date 23 November 2015



Diary notes.



knowledge.


ภาพยนต์สั้น เรื่อง ด. เด็ก ช. ช้าง
โดย 
ทรงยศ สุขมากอนันต์ 
ผลงานหนังสั้นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รัตน์ เปลตันยี จากมูลนิธิหนังไทย ประจำปี 2545


          จากการดู VDO เรื่องสั้นดังกล่าวผู้เป็นครูไม่ควรให้คะแนน หรือตัดสินเด็กเพียงเพราะประสบการณ์ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นการสะกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ และสร้างเจตคติที่ไม่ดีต่อการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต


VDO การสังเกตการสอน


การสรุปผลการสังเกตการสอนของรุ่นพี่ปี 4 ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2558 โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศน์


ท่าการกระตุ้นและบริหารสมอง

1. นวดไหปลาร้า


ใช้ มือขวาวางบริเวณที่ใต้กระดูกคอและซี่โครงของกระดูกอก หรือที่เรียกว่าไหปลาร้าจะมีหลุมตื้นๆ บนผิวหนังใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ คลำหาร่องหลุ่มตื้นๆ 2 ช่องนี้ซึ่งห่างกันประมาณ 1 นิ้วหรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับขนาดร่างกายของแต่ะละคนที่มีขนาดไม่เท่ากัน ให้นวดบริเวณนี้ประมาณ 30 วินาที และให้เอามือซ้ายวางไปที่ตำแหน่งสะดือ ในขณะที่นวดปุ่มสมองก็ให้กวาดตามองจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้ายและจากพื้นขึ้นเพดาน

ประโยชน์ของการบริหารปุ่มสมอง
- เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองให้ดีขึ้น
- ช่วยสร้างให้ระบบการสือสารระหว่างสมอง 2 ซีกที่เกี่ยวกับการพูด การอ่าน การเขียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น


2. ปุ่มขมับ


1. ใช้นิ้วทั้งสองข้างนวดขมับเบาๆวนเป็นวงกลม ประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที
2. กวาดตามองจากซ้ายไปขวา และจากพื้นมองขึ้นไปที่เพดาน

ประโยชน์ของการนวดปุ่มขมับ
- เพื่อกระตุ้นระบบประสาทและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองส่วนการมองเห็นให้ทำงานดีขึ้น
- ทำให้การทำงานของสมองทั้ง 2 ซึก ทำงานสมดุลกัน



3. ปุ่มใบหู

1. ให้นิ่วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จับที่ส่วนบนสุดด้านนอกของใบหูทั้ง 2 ข้าง
2. นวดตามริมขอบนอกของใบหูทั้ง 2 ข้างพร้อมๆกันให้นวดไล่ลงมาจนถึงติ่งหูเบา ๆ ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ควรทำท่านี้ก่อนอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มความจำและมีสมาธิมากขึ้น

ประโยชน์ของการนวดใบหู
- เพื่อกระตุ้นเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงสมองส่วนการได้ยินและความจำระยะสั้นให้ดีขึ้น
- สามารถเพิ่มการรับฟังที่เป็นจังหวะได้ดีขึ้น

4. นับ 1 - 10



ประโยชน์ของการบริหารท่านับ 1-10
- เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อมือให้ประสานกัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อค
- เพื่อกระตุ้นสมองที่มีการสั่งการให้เกิดความสมดุลทั้งซ้าย-ขวา
- เพื่อกระตุ้นความจำ





5. จีบ L

1. ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาให้มือขวาทำท่าจีบ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือประกบกับนิ้วชี้ส่วนนิ้วอื่นๆให้เหยียดออกไป
2. มือซ้ายให้ทำเป็นรูปตัวแอล (L) โดยให้กางนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ออกไป ส่วนนิ้วที่เหลือให้กำเอาไว้
3. เปลี่ยนเป็นจีบด้วยมือซ้ายบ้างทำเช่นเดียวกับข้อที่ 1 ส่วนมือขวาก็ทำเป็นรูปตัวเเอล (L)เช่นเดียวกับข้อ 2
4. ให้ทำสลับกันไปมา 10 ครั้ง

ประโยชน์ของการบริหารท่าจีบซ้าย-ขวา
- เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อมือให้ประสานกัน เพื่อไม่ให้เกิดอาการนิ้วล็อค
                                  - เพื่อกระตุ้นสมองเกี่ยวกับการสั่งการให้สมดุลย์ให้มีการเคลื่อนไหวอย่าง คล่องแคล่ว
                                  - เพื่อกระตุ้นการทำงานความสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา

6. โป้ง-ก้อย

1. ยกมือทั้งสองข้างให้มือขวาทำท่าโป้งโดยกำมือและยกหัวแม่มือขึ้นมา ส่วนมือซ้ายให้ทำท่าก้อย โดยกำมือและเหยียดนิ้วก้อยชี้ออกมา
2. เปลี่ยนมาเป็นโป้งด้วยมือซ้ายและก้อยด้วยมือขวา
3. ให้ทำสลับกันไปมา 10 ครั้ง

ประโยชน์ของการบริหารท่าจีบโป้ง-ก้อย
- เพื่อกระตุ้นการสั่งการของสมองให้สมดุลทั้งซีกซ้ายและซีกขวา
- เพื่อกระตุ้นสมองส่วนการคิดคำนวณกะระยะ
- เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อหัวไหล่เกิดการติดยึด


7. แตะจมูก-แตะหู

1. มือขวาไปแตะที่หูซ้าย ส่วนมือซ้ายให้ไปแตะที่จมูก (ลักษณะมือไขวักัน)
2. เปลี่ยนมาเป็นมือซ้ายแตะที่หูขวา ส่วนมือขวาไปแตะที่จมูก (ลักษณะมือไขวักัน)

ประโยชน์ของการบริหารท่า แตะจมูก-แตะหู
- ช่วยให้มองเห็นภาพด้านซ้ายและขวาดีขึ้น




8. แตะหู

1. มือขวาอ้อมไปที่หูซ้าย ส่วนมือซ้ายอ้อมไปจับหูขวา
2. เปลี่ยนมาเป็นมือซ้ายอ้อมไปจับหูขวาส่วนมือขวาอ้อมไปจับหูซ้าย

ประโยชน์ของการบริหารท่าโป้ง-ก้อย,แตะจมูก-แตะหู,แตะหู
- เพื่อกระตุ้นการสั่งการของสมองให้สมดุลทั้งซีกซ้ายและซีกขวา
- เพื่อกระตุ้นสมองส่วนการคิดคำนวณกะระยะ
- เพื่อป้องกันกล้ามเนื้อหัวไหล่เกิดการติดยึด



9. ทุบ / ถู


นำมือทั้งสองวางบนโต๊ะ ใช้มือซ้ายลูบโต๊ะขึ้นลง ส่วนมือขวาทุบโต๊ะอยู่กับที่ ถ้าคล่องแล้วสามารถเปลี่ยนมืออีกข้างได้






10. สัมผัสปลายนิ้ว

ยื่นใช้มือ ทั้ง 2 ข้างประกบกันในลักษณะพนมมือเป็นรูปดอกบัวตูม โดยให้นิ้วทุกนิ้วสัมผัสกันเบา ๆ พร้อมกับหายใจเข้า-ออก ทำท่านี้ประมาณ 5-10 นาที

ประโยชน์ของการบริหารท่าผ่อนคลาย
- ทำให้เกิดสมาธิเป็นการเจริญสติ


skills.
   
    skillsด้านความคิด การแสดงความคิดอย่างอิสระ กล้าคิด และคิดเป็น



Assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท เย็นสบาย 

self. เข้าห้องเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจาร์ยสอน

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น

แหล่งอ้างอิง
http://gsbgen.com/club/youth/intrend/20370/
Read more:http://www.novabizz.com/NovaAce/Physical/brainactivation.htm#ixzz3u4wqvSFA

Save time 10 Monday Date 16 November 2015



Diary notes.



knowledge.

ศิลปะสร้างสรรค์

ความหมาย
ศิลปะสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือให้เด็กแสดงความรู้สึก ความต้องการออกมาผ่านผลงาน การวาด การปั้น การประดิษฐ์ การตัด การฉีก การปะ การพับ

ความสำคัญและประโยชน์ของศิลปะสร้างสรรค์
1. เด็กได้แสดงความรู้สึก ความคิด ความสามารถ
2. ตอบสนองความต้องการ และความสามารถของเด็ก
3. ฝึกทักษะการทำงานของอวัยวะต่างๆ
4. แสดงให้เห็นถึงพัาการของเด็ก
5. บำบัดอารมณ์

พัฒนาการทางสติปัญญาของ Lowenfeld and Britain
      
       ซึ่งได้แบ่งพัฒนาการของสติปัญญา ออกเป็น 3 ขั้น ดังนี้
          1. ขั้นขีดเขียน (Scribbling Stage)  
              ช่วงอายุ 2 - 4 ปี 




          2. ขั้นก่อนมีแบบแผน (Preschemalic Stage)
              ช่วงอายุ 4 - 7 ปี 



                                                   ภาพมีความสัมพันธ์กับความจริง


          3. ขั้นใช้สัญลักษณ์ (Schemalic Stage) 
              ช่วงอายุ 7 - 9 ปี  


                                                               คล้ายของจริง


หลักการจัดประสบการณ์ศิลปะ (Principles of the art experience)
1. กระบวนการสำคัญกว่าผลงาน
2. หลีกเลี่ยงการวาดภาพตามแบบ การระบายสีจากสมุดภาพ
3. ชื่นชม
4. เตรียมอุปกรณ์
5. ศิลปะสำคัญเช่นเดียวกับการเขียนอ่าน
6. หลีกเลี่ยงคำถาม “กำลังทำอะไร” หรือ “เดาสิ่งที่เด็กทำ”

กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
- การวาด
- การปั้น
- การตัดปะ
- การพับ
- การประดิษฐ์
- การตัด
- การฉีก


กิจกรรม Home room
     การให้คำแนะนำในการเลือกโรงเรียนที่จะออกไปสังเกตการสอนในอนาคต
     การปรึกษา พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นด้านการเรียนในรายวิชาต่างๆ
     การสาธิต วิธีการตรวจสอบรายวิชาที่จะต้องเรียนในแต่ละเทอม


เกมทายใจ "ร้านขนมหวาน"



คำถาม
     1. หากเราเดินไปเจอร้านขนมแห่งหนึ่ง เราจะเลือกซื้อขนมชนิดใด เพราะอะไร
     2. ระหว่างนั้นมีกลุ่มเด็กหนุ่มยืนมองร้านขนมอยู่ คุณคิดว่าเด็กหนุ่มเหล่านั้นจะเข้าไปในร้านหรือไม่ ถ้าเข้า จะเข้ากี่คน
     3. เจ้าของร้านขนมได้ให้ของขวัญกับคุณ คือแถมขนมให้คุณ คุณคิดว่าเจ้าของร้านจะแถมขนมกี่ชิ้น
     4. แล้วคุณจะนำของขวัญชิ้นนั้นไปมอบให้ใคร


skills.
   
    skillsด้านการเลือก และตัดสินใจ การจะเลือกหรือตัดสินใจทำอะไรเราควรคิดให้รอบคอบ มีเหตุผล รับฟังความคิดเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์ และสิ่งที่เลือกต้องเหมาะสมกับความสามารถของตน การทำงานนั้นก็ย่อมจะประสบผลสำเร็จ และมีความสุข



Assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท เย็นสบาย 

self. เข้าห้องเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจาร์ยสอน

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น


เฉลย เกมทายใจ
1. สื่อถึงความคาดหวัง และความรักความเอาใจใส่
2. สื่อถึงการพึงพาผู้อื่น
3. สื่อถึงระดับความต้องการความรักจากพ่อแม่
4. สื่อถึงบุคคลที่เราต้องการดูแลไตลอดชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 9 Monday Date 09 November 2015



Diary notes.



knowledge.

กิจกรรม
- สอนภาษาผ่านนิทาน
- ร้องเพลง คำคล้องจอง
- เคลื่อนไหวและจังหวะ

กิจกรรมสอนภาษาผ่านนิทาน


ภาพ การสอนภาษาผ่านนิทาน


สื่อ และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการสอน


ขั้นนำ 
1. ครูใช้เพลงเก็บเด็ก เช่น เด็กๆคะ วันนี้ครูมีเพลงแมงมุมมาให้เด็กๆ ร้อง
2. ครูและเด็กร่วมกันร้องเพลงแมงมุม พร้อมทำท่าปะกอบ
3. ครูใช้คำถาม ถามเกี่ยวกับประสบการณ์เดิม เช่น เอ๊ะ? เด็กๆ รู้จักแมงมุมไหมเอ่ย เด็กๆ เคยเห็นแมงมุมที่ไหนบ้างคะ แมงมุมมีสีอะไรหน๊า แล้วมันมีกี่ขา เป็นต้น
4. ครูบอกสิ่งที่จะทำในวันนี้ เช่น เด็กๆคะ วันนี้คุณครูมีกิจกรรมสนุกๆ มาให้เด็กๆทำ ก็คือ กิจกรรมแต่งนิทาน

ขั้นสอน
1. ใช้คำถาม เช่น แล้วเราจะเริ่มต้นยังไงดีคะ เด็กๆ
2. ใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กคิด 
3. อาจหาอาสาสมัครออกมาเขียน เช่น มีเด็กๆ คนไหนอยากออกมาเขียนบ้างคะ

ขั้นสรุป
1. ให้คำชม และครูอ่านนิทานให้เด็กฟัง ประกอบไม้ชี้ เช่น เด็กๆ เก่งมากเลย เดี๋ยวคุณครูจะเล่านิทานให้เด็กๆ ฟังนะคะ
2. ถามเด็กเกี่ยวกับนิทาน ด้วยคำถาม 5 W 1 H เช่น เด็กๆ จำได้หรือเปล่าคะ ว่าในนิทานแมงมุมมีกี่ขา
แล้วในนิทานเด็กๆ เจอแมงมุมที่ไหนเอ่ย


กิจกรรมร้องเพลง คำคล้องจอง

เนื้อเพลง อะไรเอ่ย


เพลงสัตว์อะไรเอ่ย เป็นคำคล้องจองปริศนา คำทายที่บอกลักษณะของสัตว์ เพื่อให้เด็กทายชื่อสัตว์ตามจินจนาการ 


กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
     
      กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ แบ่งออกเป็น 7 ปะเภท ดังนี้
            1. การเคลื่อนไหวอยู่กับที่
           2. การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
           3. การเคลื่อนไหวตามบทเพลง
           4. การทำท่ากายบริหารประกอบเพลง
           5. การเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์
           6. การเคลื่อนไหวตามคำสั่งและข้อตกลง
           7. การเคลื่อนไหวแสดงท่าทางตามคำบรรยายเรื่องราว เป็นต้น

      ภาพกิจกรรม


ครั้งที่1
คำสั่ง 
ให้ทำท่าทางตามจินตนาการโดยห้ามซ้ำกับเพื่อนคนอื่น


ครั้งที่ 2
คำสั่ง 
ออกแบบท่าประกอบชื่อจริงของตน ตามจำนวนพยางค์






ครั้งที่ 3
คำสั่ง
ทำท่าตามเพื่อนคนซ้ายมือ พร้อมออกแบบและทำท่าของตน







skills.
   
    skillsด้านการสอน เทคนิคการเก็บเด็ก การสอนประกอบสื่อที่หลากหลาย การใช้คำถาม 5 W 1 H และการเขียนตัวอักษรหัวกลมตัวเหลี่ยม และด้านความคิด การแสดงความคิดอย่างอิสระ กล้าคิด และคิดเป็น



Assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท เย็นสบาย 

self. เข้าห้องเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจาร์ยสอน

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Save time 8 Monday Date 02 November 2015



Diary notes.



knowledge.

- กิจกรรม กระซิบ
- อาจารย์ให้เล่นเกม ทายเสียงจากสัตว์ และเครื่องดนตรี
- แจกเนื้อเพลง Where is thumbkin
-  การสอนแต่งนิทาน


กระซิบ
     
     อาจารย์ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน 

    วิธีการเล่น
           1. ให้หัวแถวของทุกกลุ่มออกไปจำประโยคที่อาจารย์กำหนดให้ คนละประโยค
           2. นำมากระซิบบอกเพื่อนคนถัดไป กระซิบต่อไปเรื่อยๆ จนถึงคนสุดท้าย
           3. คนสุดท้ายของแถว ออกไปพูดประโยคที่ตนได้ หน้าชั้นเรียน


ทายเสียงสัตว์ และเครื่องดนตรี


        
   วิธีการเล่น 
         1. อาจารย์เปิดเสียงร้องของสัตว์ชนิดต่างๆ จำนวน 11 เสียง ให้นักศึกษาทาย
         2. นักศึกษาจดบันทึกชนิดของสัตว์ ตามจินตนาการ
         3. เปิดเสียงเครื่องดนตรี จำนวน  เสียง
         4. นักศึกษาจดบันทึกชื่อเครื่องดนตรี ตามจินตนาการ 
         5. เฉลย

หมายเหตุ หากนำไปเล่นกับเด็กปฐมวัย ครูควรเลือกชนิดที่เด็กรู้จักและคุ้นเคย ในจำนวนไม่มากนัก


เนื้อเพลง 






การสอนแต่งนิทาน


ตัวอย่าง นิทานเรื่อง ทะเลแสนงาม

      เทคนิคการสอน
ขั้นนำ
   1. เก็บเด็ก เช่น การร้องเพลง การใช้คำถาม 
            ตัวอย่าง เพลง    เรามีตาไว้ดู เรามีหูไว้ฟัง 
                                   คุณครูท่านสอน ท่านสั่ง
                                   ต้องตั้งใจฟัง ต้องตั้งใจดู

ขั้นสอน
1. ถามเด็กเกี่ยวกับชื่อเรื่อง ให้เด็กตั้งชื่อเรื่อง หรือคุณครูและเด็กร่วมกันตั้ง
2. ใช้คำถาม เช่น แล้วเราจะเริ่มต้นยังไงดีคะ เด็กๆ
3. หาอาสาสมัครมาลองเขียน เช่น มีใครอยากออกมาเขียนบ้าง
4. ใช้คำถามกระตุ้น เช่น อะไรจะเกิดขึ้นที่ทะเล

ขั้นสรุป
1. ครูอ่านนิทานให้เด็กฟัง
2. ใช้คำถาม 5 W 1 H ทบทวนเนื้อหาในนิทาน

     การฝึกเขียนตัวอักษรหัวกลม ตัวเหลี่ยม






skills.
   
    skillsด้านภาษา การฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร ภาษากับเด็กปฐมวัยนับว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะเด็กปฐมวัยเป็นวัยที่มีภาษาเป็นรากฐานสำคัญสำหรับพัฒนาการด้านต่างๆ การที่บุคคลมีความสามารถทางภาษาที่ดีย่อมแสดงว่าบุคคลผู้นั้นมีความสามารถทางสติปัญญาที่ดีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการพูดเป็นการรวมประสบการณ์ด้านต่างๆ ของเด็กเข้าด้วยกัน ได้แก่ ความรู้สึก ความคิด การรับรู้ และความเข้าใจ เป็นต้น ครูปฐมวัยจึงควรตระหนักและให้ความสำคัญกับภาษาของเด็ก ผ่านการส่งเสริมด้วยกิจกรรมการแต่งนิทาน กระตุ้นด้วยคำถามปลายเปิด 5 W 1 H และการเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษา ทั้งการออกเสียง ร ล คำควบกล้ำให้ถูกต้อง ชัดเจน การรับฟังผู้อื่น การอ่านแสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆ และการเขียนตัวอักษรหัวกลม ตัวเหลี่ยม เป็นต้น
           



Assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท เย็นสบาย 

self. เข้าห้องเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจาร์ยสอน

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Save time 7 Monday Date 26 October 2015



Diary notes.



knowledge.

  อาจารย์มอบหมายงาน ดังนี้
   - ฝึกเขียนตัวอักษรหัวกลมตัวเหลี่ยม
   - เลือกไม้ชี้ของเพื่อนในกลุ่มที่ดีที่สุด และฝึกการสอนหน้าห้องเรียนด้วยนิทาน



skills.
   
    skillsด้านความคิด การแสดงความคิดอย่างอิสระ กล้าคิด และคิดเป็น

           กิจกรรม "ประดิษฐ์ไม้ชี้วิเศษ"

      ให้นักศึกษาประดิษฐ์ไม้ชี้ของตนเองตามที่ได้คิดและออกแบบมา โดยที่ไม้ชี้ต้องมีหัวชี้ที่ชัดเจน  ขนาดพอเหมาะ และมีลักษณะที่เหมาะสมไม่เด่นมากเกินไปเพื่อไม่ให้เด็กสนใจไม้ชี้เพียงอย่างเดียว

วิธีการ  แจกอุปกรณ์

อุปกรณ์ 
        1. กระดาษ 100 ปอน
        2. กระดาษสี
        3. สีไม้ สีเมจิก กรรไกร
        4. ไม้พลาสติก (ไม้ลูกโป่ง)
        5. ปืนกาว


ไม้ชี้ โดนัลดักค์


ผลงานไม้ชี้ของเพื่อนๆ




Assessment.

classroom conditions. อากาศถ่ายเท เย็นสบาย 

self. เข้าห้องเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ใช้ ร ล และคำควบกล้ำได้ถูกต้อง และมีการจดบันทึกสรุปเนื้อหาที่อาจาร์ยสอน

friend. เข้าชั้นเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ แสดงความคิดเห็นและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

professor. อาจารย์ให้ความเป็นกันเอง บริหารเวลาในการสอนได้เหมาะสม การแต่งกายสะอาดสะอ้าน และเป็นระเบียบเรียบร้อย พูดเสียงดังชัดถ้อยชัดคำ เข้าสอนตรงเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาซักถาม แสดงความคิดเห็น